คำถามที่พบบ่อย (FAQ) – มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง

คำถามที่พบบ่อย

1. มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงแตกต่างจากมอเตอร์ธรรมดาทั่วไปอย่างไร
มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงจะมีการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ดีกว่า มีค่าความสูญเสียน้อยกว่ามอเตอร์ธรรมดาทั่วไป ส่งผลให้ประหยัดพลังงานมากกว่า เกิดความร้อนน้อยกว่า ทนทานอายุการใช้งานยาวนานกว่าเมื่อเปรียบเทียบการใช้งานที่กำลังขาออกที่เท่ากัน

2. มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงมีระยะรูยึดฐาน ความสูง ขนาดเพลา แตกต่างจากมอเตอร์มาตรฐานทั่วไปหรือไม่ สามารถนำไปติดตั้งแทนเลยได้ไหม
มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงของทางบริษัทฯ ที่จำหน่ายจะเป็นมอเตอร์มาตรฐาน IEC ซึ่งโดยส่วนใหญ่มอเตอร์ที่ใช้งานในประเทศไทยอย่างแพร่หลายจะเป็นมอเตอร์มาตรฐาน IEC หากมอเตอร์ตัวเดิมของลูกค้าเป็นมาตรฐาน IEC จะมีขนาด ความสูง เพลา ระยะรูยึดที่เท่ากัน อาจจะมีความแตกต่างบ้างในเรื่องของความยาว และความสูงโดยรวมของมอเตอร์เล็กน้อย โดยมากจะไม่มีผลต่อการติดตั้ง แต่ถ้ามอเตอร์เดิมของลูกค้าเป็นมอเตอร์มาตรฐานอื่นๆเช่น มาตรฐาน NEMA, JIS อาจจะต้องพิจารณาระยะต่างๆอีกครั้ง เนื่องจากอาจจะมีระยะที่คลาดเคลื่อน โดยสามารถปรับระยะความสูงได้โดยการปรับปรุงแท่นเพื่อปรับระยะความสูงหรือระยะรูยึด หรือเปลี่ยน Coupling เพื่อปรับขนาดเพลาให้มอเตอร์สามารถติดตั้งกับโหลดได้อย่างเหมาะสม

3. ข้อดีของการเลือกใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง
สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้และมอเตอร์มีความทนทานมากกว่ามอเตอร์มาตรฐานทั่วไป เนื่องจากเกิดความร้อนน้อยกว่า

4. ข้อสังเกตของการเลือกใช้มอเตอร์ประสิทธิภาพสูง
มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงจะมีราคาที่สูงกว่ามอเตอร์มาตรฐานทั่วไปซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนที่สูงกว่า

5. จะเลือกซื้อมอเตอร์จะต้องทราบอะไรบ้าง
- ขนาดพิกัดกำลังไฟฟ้าขาออกของมอเตอร์ (กิโลวัตต์ หรือ แรงม้า)
– ความเร็วรอบหรือจำนวนขั้วของมอเตอร์ (รอบ/นาที หรือจำนวน Poles)
– ลักษณะการติดตั้งมอเตอร์ เช่น มอเตอร์ชนิดขาตั้ง หรือ หน้าแปลน
– ระบบแรงดันไฟฟ้าและความถี่ใช้งาน (สำหรับการใช้งานในเมืองไทยโดยมากจะเป็น 1 หรือ 3 Phase 220, 380-415 V)

6. จะทราบได้อย่างไรว่ามอเตอร์ที่ใช้งานอยู่เป็นมอเตอร์ธรรมดาหรือประสิทธิภาพสูง
สามารถดูจากเนมเพลตของมอเตอร์ หากเป็นมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงมักจะมีการระบุค่าประสิทธิภาพและลำดับขั้นของค่าประสิทธิภาพ เช่น IE2,IE3,IE4 จะเป็นมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงโดยระดับ IE4 จะมีค่าประสิทธิภาพที่สูงที่สุด สำหรับมอเตอร์ที่ไม่ได้ระบุลำดับขั้นประสิทธิภาพโดยมากจะเป็นมอเตอร์ IE1 หรือมอเตอร์มาตรฐานทั่วไป เนื่องจากเราไม่สามารถแยกมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงและมอเตอร์ธรรมดาด้วยตาเปล่าได้ ดังนั้นความน่าเชื่อถือของข้อมูลบนเนมเพลตจึงเป็นสิ่งสำคัญในการแบ่งแยกมอเตอร์

7. ควรซื้อมอเตอร์ที่ระดับประสิทธิภาพเท่าไหร่ระหว่าง IE2 – IE4
ทางบริษัทฯ แนะนำให้ซื้อมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงระดับ IE3 เนื่องจากมีราคาที่ไม่ต่างจาก IE2 มาก (ประมาณ 10-15 % ในปัจจุบัน) ซึ่งหากคำนวณดูแล้วจะมีความคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากมอเตอร์ IE4 จะมีราคาที่ยังสูงอยู่ (สูงกว่า IE3 ประมาณ 40-50%) โดยพิจารณาจากยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ

8. หลักในการเลือกซื้อมอเตอร์เพื่อตอบโจทย์เรื่องการประหยัดพลังงาน
เนื่องจากมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงมีจำหน่ายอยู่แพร่หลายในประเทศไทย ดังนั้นควรพิจารณาเลือกยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือเป็นสำคัญ และได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากสิ่งที่บ่งบอกว่ามอเตอร์มีประสิทธิภาพสูงหรือไม่เราสามารถดูได้จากข้อมูลบน เนมเพลตเท่านั้น ปัจจุบันสำหรับในประเทศไทยจะมีฉลากประสิทธิภาพสูงเบอร์ 5 โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่รับรองและสนับสนุนความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์มอเตอร์ยี่ห้อนั้นๆ นอกจากนี้ควรพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆด้วยเช่น เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศอะไร ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย รวมถึงการบริการหลังการขาย

9. ทำไมต้องซื้อมอเตอร์กับทางบริษัท อัลติเมท คอมเมอร์เชียล

บริษัทฯ อัลติเมท คอมเมอร์เชียล จำกัด เป็นผู้นำเข้ามอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี มุ่งเน้นเรื่องมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงเพื่อการประหยัดพลังงาน โดยผลิตภัณฑ์มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงของทางบริษัทฯ ผ่านการทดสอบ ได้รับการรับรอง ได้รับฉลากประสิทธิภาพสูงจากกระทรวงพลังงาน พร้อมมีการบริการหลังการขาย ดูแลลูกค้าและให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน สำหรับลูกค้าที่ซื้อมอเตอร์กับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯจะมีบริการเข้าไปตรวจวัดค่าพลังงานก่อนและหลังเปลี่ยนด้วยเครื่องมือ Energy Analyzer พร้อมทำรายงานผลประหยัดให้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล

10. ซื้อมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงกับทางบริษัทฯ รอของนานเท่าไหร่

ทางบริษัทฯ มีความยินดีที่จะจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าอย่างเร่งด่วน ในเวลาทำการ โดยทั่วไปสำหรับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง จะมีสินค้าในคลังพร้อมจัดส่ง หากไม่มีสินค้าในประเทศไทย แต่มีสินค้าในต่างประเทศ จะใช้เวลานำเข้าประมาณ 2-3 สัปดาห์ และหาก ไม่มีสินค้าในต่างประเทศต้องผลิตใหม่ จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน



ขอใบเสนอราคา

ติดต่อเรา

ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ สามารถส่งข้อความผ่านทางช่องทางนี้ โดยทางทีมงานจะติดต่อกลับท่านโดยเร็วที่สุด

Don`t copy text!
Filter Resize